4 เคล็ดลับการทำกำไรใน Bitcoin ด้วยเทคนิค Price Action
4 เคล็ดลับทำกำไรในตลาด Bitcoin ด้วย Price Action
การเทรดแบบ Price Action เป็น 1 ในเทคนิคที่ทรงพลังที่สามารถทำกำไรใน Bitcoin ได้อย่างต่อเนื่อง Price Action นั้นเป็นเทคนิคการเทรดที่หา Trade Setup ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมของ กราฟแท่งเทียนเปล่า ๆ เท่านั้น (Naked Candlestick) บทความนี้จะมาเผย 4 เคล็ดลับการใช้กราฟแท่งเทียนเปล่า ๆ ในการทำกำไรในการเทรด Bitcoin ให้เทรดเดอร์ทุกท่าน
เคล็ดลับที่ 1 : ความเรียบง่ายของกราฟแท่งเทียน
สำหรับ Price Action Trader อย่างเรา ๆ จะใช้กราฟแท่งเทียนเป็นหลัก ในการวิเคราะห์ตลาด กราฟแท่งเทียน 1 แท่ง จะประกอบไปด้วยข้อมูล ราคาเปิด (Open), ราคาปิด (Closed), ราคาสูงสุด (High) และ ราคาต่ำสุด (Low) ถ้าในวันนั้นราคาปิด สูงกว่า ราคาเปิด เราจะเรียกว่า ภาวะกระทิง (Bullish Candlestick) โดย Bullish Candlestick มักจะแทนด้วยแท่งสีเขียวหรือสีน้ำเงิน (หรือสีขาว) ถ้าในวันนั้นราคาปิด ต่ำกว่า ราคาเปิด เราจะเรียกว่า ภาวะหมี (Bearish Candlestick) โดย Bearish Candlestick มักจะแทนด้วยสีแดงหรือสีดำ ดูที่ภาพได้เลยครับ
ภาพจาก : http://fta.lanzendholdingss.netdna-cdn.com
สำหรับ Price Action Trader สิ่งที่พวกเราต้องสนใจอีกอย่าง ก็คือ ตัวแท่ง (Body) ถ้าเป็น Bullish Candlestick คือ พื้นที่บริเวณสีเขียว หรือ ถ้าเป็น Bearish Candlestick จะเป็นพื้นที่บริเวณสีแดง
Body ของแท่งเทียนจะเป็นเบาะแสให้เราทราบว่า กราฟที่เราวิเคราะห์มีลักษณะอย่างไร รวมถึงเป็นตัวบอก Signal ได้อีกด้วย
ข้อดีของการวิเคราะห์ตลาดด้วย Price Action คือ เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อนี้เป็นข้อได้เปรียบของ Price Action Trader อย่างเรา ๆ
เคล็ดลับที่ 2 : อ่าน Trend ด้วย Price Action
การอ่าน Trend เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Price Action Trader เพราะ Trend จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความแม่นยำของ Signal ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของตลาด Bitcoin ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ จะช่วยให้คุณเห็นความสำคัญของ Trend มากขึ้น และเป็นสิ่งแรกที่เราต้องฝึกอ่านให้ออก
อ่าน แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จาก Pattern Higher High (HH) – Higher Low (HL) ดูที่รูป
อ่าน แนวโน้มขาลง (Downtrend) จาก Pattern Lower High (LH) – Lower Low (LL) ดูที่รูป
เคล็ดลับที่ 3 : ดูแนวรับ-แนวต้านด้วย Price Action
แนวรับ-แนวต้าน สำหรับ Price Action Trader เราจะใช้ จุดสูงสุด (High) และ จุดต่ำสุด (Low) มีอีกชื่อว่า Swing High และ Swing Low เป็นแนวรับ-แนวต้าน
หลักการเกิดแนวรับ : เป็นจุดที่ผู้คนในตลาดพยุงราคาไว้ เป็นจุดที่มี Demand สูง เพราะ ตลาด (ผู้คน) เห็นว่าราคาลงมามากพอแล้ว
หลักการเกิดแนวต้าน : เป็นจุดที่ผู้คนในตลาดขายเพื่อกดราคาไว้ เป็นจุดที่มี Supply สูง เพราะ ตลาด (ผู้คน) เห็นว่าราคาขึ้นมามากพอแล้ว
สิ่งสำคัญทีjอยากให้ทุกท่านจำให้ดี ก็คือ ในแนวโน้มขาขึ้นแนวรับ (Support) จะแข็งแกร่งกว่า แนวต้าน (Resistance) แปลว่า ในแนวโน้มขาขึ้น แนวรับ มักจะรับราคาอยู่ และ แนวต้าน มักจะต้านราคาไว้ไม่อยู่ (กลับกันในแนวโน้มขาลง)
การดูแนวต้าน : Swing High ก่อนหน้า อยู่สูงกว่าราคาปัจจุบัน
การดูแนวรับ : Swing Low ก่อนหน้า อยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
อีกสิ่งสำคัญที่ Price Action Trader ต้องรู้ คือ แนวต้านเปลี่ยนเป็นแนวรับ – แนวรับเปลี่ยนเป็นแนวต้าน
แนวต้านเปลี่ยนเป็นแนวรับ จะขึ้นเกิดในแนวโน้มขาขึ้น เมื่อราคาวิ่งทะลุแนวต้าน จุดที่เคยเป็นแนวต้านจะเปลี่ยนเป็นแนวรับ (หลักการแนวรับเปลี่ยนเป็นแนวต้านก็ใช้หลักการเดียวกัน เพียงแต่จะเกิดในแนวโน้มขาลง)
เคล็ดลับที่ 4 : รู้จัก Price Action Signal สัญญาณเทรดที่ทรงพลัง
สิ่งที่แตกต่างระหว่างเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Price Action กับ เทรดเดอร์คนอื่นๆ คือการใช้ Price Action Signal จะใช้ตัวแท่งเทียน ในการให้สัญญาณพูดง่ายๆ ก็คือเราสามารถใช้แค่ Price Action ก็สามารถวิเคราะห์ได้ทั้ง แนวโน้ม, แนวรับ-แนวต้าน และ สัญญาณเลยล่ะครับ
ตลาด Bitcoin ในปัจจุบันนั้น เราสามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ดังนั้นสัญญาณที่เกิดขึ้นจึงมีทั้งสัญญาณที่เป็น สัญญาณขาขึ้นและสัญญาณขาลง
กราฟแท่งเทียนนั้นแนะนำให้จำเพียง 4 รูปแบบครับ นั่นก็คือ Pin Bar, Inside bar, Inside bar false-break และ Engulfing ดูลักษณะได้ตามรูปด้านล่างเลยครับ จำได้เพียงเท่านี้ก็สามารถทำกำไรในตลาด ฺBitcoin ได้อย่างยั่งยืนแล้วครับ
ในรูปแบบทั้ง 4 ของ Price action ก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในเรื่องของการดูการเคลื่อนไหวสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จาก "รู้จัก 4 สัญญาณสำคัญสำหรับเทรด Bitcoin"